ประวัติศาสตร์ "เพลงชาติไทย" โดย ดร. สมศักดิ เจียมธีรสกุล

ดร. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ดร. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ความเป็นมาของเพลงชาติไทยในปัจจุบัน โดย สมศักดิ เจียมธีรสกุล ปลายปี 2545 ถึงต้นปี 2546 มีข่าวว่ากระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้ บริษัทผลิตเทปเพลงชื่อดัง แกรมมี่ ทดลองดัดแปลงทํานอง และบันทึกเพลงชาติไทย ใหม่โดยให้นักร้อง "ยอดนิยม" ของบริษัท เช่น ธงไชย แมคอินไตย เป็นผู้ขับร้องเพลงชาติไทย

ทั้งนี้ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการส่งเสริมความรักชาติในหมู่วัยรุ่น ข่าวดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ปฏิกิริยาส่วนใหญ่เป็นไปในทางลบ ด้วยเหตุผลทํานอง ว่า เพลงชาติไทยมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรเปลี่ยน, ไม่ควรมีหลายฉบับ และไม่คิดว่าบริษัทอย่างแกรมมี่ที่ปกติผลิตเพลงเพื่อการตลาดเหมาะสมจะเป็นผู้ทํา หลังจากนั้นข่าวนี้ก็เงียบหายไป

1 ปีต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ลงมติรับรอง เพลงสําคัญของแผ่นดิน 6 เพลง (เพลงชาติไทย, เพลงสรรเสริญพระบารมี, เพลงมหาชัย, เพลงมหาฤกษ์, เพลงสดุดีมหาราชา, เพลงภูมิแผ่นดินนวมินทร์มหาราชา) ที่ผลิตโดยคณะกรรมการเฉพาะกิจซึ่งคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติแต่งตั้งขึ้น ให้เป็น "ต้นแบบ" สําหรับให้หน่วยงานราชการและเอกชนนําไปใช้ ตรงข้ามกับไอเดียเริ่มต้นของกลาโหม ที่ต้องการทดลองหาสิ่งใหม่ (ชนิด "ถูกใจวัยรุ่น")

เพลงชาติไทยและ "เพลงสําคัญ" อื่นๆ อีก 5 เพลงที่คณะกรรมการเอกลักษณ์ผลิต เริ่มต้นจากไอเดียที่มองว่า "ปัจจุบันการเผยแพร่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ซึ่งหากปล่อยไว้ต่อไปอาจสูญเสียเอกลักษณ์ของชาติไปในที่สุด" ในความเป็นจริง หากใครฟังเพลงชาติไทย "เวอร์ชั่นใหม่" ที่เริ่มเผยแพร่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 เป็นต้นมา ก็จะพบว่าแทบไม่มีความแตกต่างจากเพลงชาติไทยที่เคยฟังกันมาก่อนเลย

สุกรี เจริญสุข
สุกรี เจริญสุข
อันที่จริง ความคิดที่ให้แก้ไขเพลงชาติไทย ไม่เพียงแต่ดัดแปลงทํานอง หรือเปลี่ยนผู้ร้อง แต่เปลี่ยนเพลงใหม่เลยเคยมีผู้เสนออย่างจริงจังมาก่อนในปลายปี 2528 ในหนังสือพิมพ์ สยามรัฐ รายวัน และนําไปสู่การถกเถียงทางหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นอย่างคึกคักกว่า 3 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งอาจจะด้วยแรงกระตุ้นจากการถกเถียงนี้เองที่ สุกรี เจริญสุข ผลิตงานเรื่อง เพลงชาติ ของเขาออกมา ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นงานศึกษาเพลงชาติไทยเชิงวิชาการชิ้นแรกและชิ้นเดียวในปัจจุบัน

นอกจากเราจะมีงานของ สุกรี แล้ว เพลงชาติไทย (ต่างกับเพลงสรรเสริญพระบารมี) ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสําคัญให้เขียนถึงได้อีก เพราะยังมีบันทึกความทรงจําของคนสําคัญๆ ที่เป็นผู้ให้กําเนิดเพลงชาติไทย ทั้งฉบับแรกและฉบับปัจจุบัน ครบทั้ง 3 คน คือ พระเจนดุริยางค์ ผู้แต่งทํานอง, ขุนวิจิตรมาตรา ผู้แต่งคําร้องฉบับแรก และหลวงสารานุประพันธ์ ผู้แต่งคําร้องฉบับปัจจุบัน อย่างไรก็ตามสุกรีเขียนงานของเขาในฐานะนักวิชาการดนตรีไม่ใช่ในฐานะนักประวัติศาสตร์

เขาเพียงแต่รวบรวมบันทึกความทรงจํา และเอกสารชั้นต้นที่เกี่ยวข้องมาตีพิมพ์เท่านั้น เขาไม่ได้ท่าการตรวจสอบและวิพากษ์หลักฐานเหล่านั้นอย่างจริงจัง การใช้หลักฐานจึงเป็นไปอย่างค่อนข้างหละหลวม และ (ดังที่นักประวิตีศาสตร์ทุกคนย่อมทราบดี) ความทรงจําย่อมผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้ นอกจากนี้สุกรียังไม่ได้พยายามใช้หลักฐานที่มีอยู่แล้วขณะที่เขาเขียนงานให้เป็นประโยชน์เต็มที่ ในบทความนี้ผมจะใช้การวิพากษ์หลักฐานทางประวัติศาสตร์และการรวบรวมหลักฐานที่มีอยู่ทั้งที่เคยเปิดเผยแล้ว และไม่เคยเปิดเผยมาก่อน (รายงานการประชุมคณะรัฐมนตรี) มาเล่าความเป็นมาของเพลงชาติไทยปัจจุบันให้สมบูรณ์ยิ่งกว่าที่เคยมีการเล่ากันมา



พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร)
พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร)

ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์)
ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์)

หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์)
หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์)

เพลงชาติไทยกับเพลงสรรเสริญพระบารมี

ในบทความนี้ผมจะพูดถึงความเป็นมาของเพลงชาติไทยซึ่งในความเป็นจริงเคยมีเพียงฉบับเดียว ถ้าพูดในแง่ทํานองเพลง มีเพียง 3 ฉบับ แต่ถ้าพูดในแง่เนื้อร้องต่างจาก สุกรี และ สุพจน์ มานะลัภนเจริญ ผมไม่จัดเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงชาติไทย แม้ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์เอง

เป็นความจริงที่ว่า ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 เมื่อสยามเริ่มมีการประดิษฐ์เพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น ฝรั่งก็พาดพิงถึงเพลงสรรเสริญพระบารมี (ซึ่งตอนแรกเอาของ ฝรั่ง God save the King มา) ว่าเป็นเพลงชาติสยาม (Siamese National Anthem) แต่ชาวสยามไม่ได้ถือเช่นนั้น รวมทั้งในหมู่ชนชั้นนําเองก็ไม่ได้มองเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงชาติไทย (ยกเว้นในแง่ที่สัมพันธ์กับฝรั่ง) แน่นอนว่าเพลงสรรเสริญพระบารมีถูกถือว่าเป็นเพลงที่สําคัญ ที่สุดของสังคม "ชาติ" สยามในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์

แต่เนื่องจากความคิดเรื่อง "ชาติ" ในสมัยนั้นเป็นความคิดที่สําคัญน้อยกว่าและขึ้นต่อความคิดเรื่องสถาบันกษัตริย์ จึงไม่เกิดความต้องการที่จะต้องมีเพลงสําหรับ "ชาติ" ต่างหากจากเพลงสําหรับ กษัตริย์ การที่พวกนิยมเจ้าบางคนเกิดความไม่พอใจ เมื่อหลัง 2475 ใหม่ๆ รัฐบาลคณะราษฎร์พยายามประดิษฐ์เพลงชาติขึ้นนั้น ไม่ใช่เพราะเห็นว่าพวกหลังพยายามเปลี่ยน "เพลงชาติไทย" แต่เพราะเห็นว่าพวกนั้นกำลังลดความสําคัญของเพลงสําหรับกษัตริย์ (และจากนี้คือความสําคัญของกษัตริย์) การเรียกเพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับต่างๆ ว่า "เพลงชาติไทย" ฉบับที่ 1, 2, 3 ของไทย ทําให้มองไม่เห็นความขัดแย้ง (ไม่ใช่ความต่อเนื่อง) ระหว่างแนวคิดเบื้องหลังเพลง 2 ประเภท ประเภทหนึ่งเห็นว่ากษัตริย์สําคัญที่สุด อีกประเภทหนึ่งเห็นว่าชาติสําคัญที่สุด

ในส่วนเพลงสรรเสริญพระบารมีเอง ผมมีความเห็นว่างานเมื่อเร็วๆ นี้ของสุพจน์ มานะลัภนเจริญ สามารถอภิปรายได้อย่างน่าเชื่อว่า ชูรอฟสกี้ ไม่ใช่ผู้แต่งอย่างที่สุกรีเคยเสนอไว้ แต่เป็นเพียง 1 ในผู้เรียบเรียงเสียงประสาน อย่างไรก็ตามข้อเสนอของสุพจน์ที่ว่า เคยมีชาวปรัสเซียชื่อฟรีทช์ แต่งเพลงสรรเสริญพระบารมีให้สยามตั้งแต่ปี 2405 (1862) ยังชวนให้สงสัยว่า โดยส่วนตัว หลังจากอ่านงานทั้งของ สุกรีและสุพจน์แล้ว ผมมีความรู้สึกว่า ถึงที่สุดแล้ว เพลงสรรเสริญพระบารมีฉบับต่างๆ ทั้งหมดที่ทั้งคู่กล่าวถึง รวมทั้งฉบับปัจจุบัน มีต้นกําเนิดเดียวกันจากเพลงที่เรียกว่า "บุหลันลอยเลื่อน" ซึ่งเป็นเพลงคํานับกษัตริย์สมัยรัชกาลที่ 2

"เพลงชาติมหาชัย" ไม่ใช่เพลงชาติไทย

เพลงชาติไทย เกิดขึ้นจริงๆ หลังจากแนวคิดที่แยกชาติออกจากกษัตริย์และให้ความสําคัญ กับชาติมากกว่ากษัตริย์ได้รับชัยชนะนนคือหลังจาก 24 มิฤนายน 2475 งานเขียนเรื่องเพลงชาติไทยที่ผ่านมาแทบทุกชิ้นกล่าวว่า เพลงชาติไทยเพลงแรกหลังเหตุการณ์นั้น คือ "เพลงชาติมหาชัย" ซึ่งเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีแต่งให้กับคณะราษฎรในระหว่างช่วงยึดอํานาจโดยใช้ทํานองเพลงมหาชัย และมีเนื้อร้องว่า
เพลงชาติมหาชัย เพลงชาติไทย

ผมไม่แน่ใจว่า การระบุว่า "เพลงชาติ มหาชัย" คือเพลงชาติเพลงแรกหลัง 2475 นั้นเริ่มมาจากไหน สงลัยว่าจากบทความประวัติเพลงชาติไทยปี 2515 ของมนตรี ตราโมท (แม้ว่าถ้าอ่านดีๆ จะพบว่า มนตรีไม่ได้บอกว่าเพลงของเจ้าพระยาธรรม ศักดิ์ฯ เป็นเพลงชาติไทยจริงๆ แต่ดูเหมือนคนที่เล่ากันต่อๆ มาจะขยายความไปเอง) เท่าที่ผมอ่านเอกสารของช่วง 2475 ไม่พบการระบุเช่นนี้ ผมพบว่ามีการดีพิมพ์เนื้อเพลงข้างต้น เข้าใจว่าเป็นครั้งแรกใน ศรีกรุง รายวัน ฉบับวันเสาร้ที่ 2 กรกฎาคม 2475 หน้า 9

น่าสังเกตว่า ศรีกรุง เองไม่ได้ระบุว่านี่คือเพลงชาติไทย และอันที่จริงเนื้อเพลงนี้ถูกตีพิมพ์พร้อมกับเนื้อเพลงอื่นอีก 3 เพลง ภายใต้หัวข้อ "เพลงคณราษฎร์"(สะกดแบบนี้) โดยที่ 3 เพลงซึ่งตีพิมพ์อยู่ตอนต้นก่อนเพลงนี้ (เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้าย) อยู่ใต้ชื่อ "นางนาค", "มอญโยนดาพ" (สะกดแบบนี้) และ "คลื่นกระทบฝั่ง" ซึ่งล้วนเป็นชื่อทํานองเพลงไทย (เดิม) แม้แต่ "มหาชัย" ใน "เพลงชาติมหาชัย" (สะกดแบบนี้ในศรีกรุง) ผมก็เข้าใจว่า น่าจะหมายถึง "มหาชัย" แบบไทยมากกว่าแบบดนตรีฝรั่ง ทั้ง 4 เพลงยาวเท่ากันหมด และไม่มีชื่อผู้แต่ง

จากหลักฐานที่มีอยู่ ผมคิดว่ามีเหตุผลมากกว่าที่จะสรุปว่า "เพลงชาติมหาชัย" ของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเพลงชาติไทยในความหมาย  ที่เข้าใจกัน และก็ไม่ได้ฤกถือว่าเป็นโดยคนฟึมัยนั้นด้วย ถ้าเราลองคิดว่า เมื่อมีข่าวว่าพระเจนดุริยางค์แต่งเพลงชาติขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน ยังสร้างความไม่พอใจให้กับแวดวงเจ้าส่วนหนึ่ง จนรัฐบาลต้องออกมาปฏิเสธ (ดังจะกล่าวต่อไป)

เหตุใดจึงสามารถมีเพลงชาติฉบับของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ฯ กันได้ง่ายๆ เล่า? ลักษณะที่เนื้อเพลงถูกตีพิมพใน ศรีกรุง ส่อว่านี่คงเป็นเพียง 1 ในหลายเพลงที่ "มีผู้แต่งส่งมาให้คณะราษฎรเป็นอันมาก" จริงๆ (ตามคําของพระยาพหลฯ ในกรณีพระเจนดุริยางค์ที่จะเห็นต่อไป)  2 วันหลังจากตีพิมพ์ "เพลงคณราษฎร์" ทั้ง 4 เพลงแล้ว ศรีกรุงยังตีพิมพ์เนื้อเพลงอีก 1 เพลงภายใต้ชื่อ "ช้างประสานงา" โดยขึ้นหัวข้อว่า "เพลงปลุกใจชาวไทยคณราษฎรเมื่อคืนนี่" และมีบรรยายสั้นๆ ว่า "ร.ท.หม่อมหลวงขาบ กุญชร เป็นผู้ร้องกระจายเสียงที่สถานีวิทยุพญาไท [คือสถานีวิทยุรัฐบาล-สมศักดิ์] เมื่อคืนนี้" เพลง "ช้างประสานงา" มีความยาวเท่ากับเพลงในชุด "เพลงคณราษฎร์" และไม่มีชื่อผู้แต่ง การที่เพลงนื้มีทํานองเพลงไทยเดิมเป็นเหมือนชื่อเพลงอีก น่าจะยืนยันว่า "เพลงชาติ มหาชัย" ก็คงเป็นทํานอง แบบไทยเดิมเช่นกัน และคงไม่มีสถานะพิเศษกว่าเพลงอื่นๆ เหล่านี้

ในงานเกี่ยวกับเพลงชาติก่อนหน้านี้ กล่าวกันว่า "เพลงชาติ มหาชัย" ของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ฯ ได้รับการขับร้องระหว่างเปลี่ยนแปลงการปกครอง เรามีบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้นใน 2-3 วันแรกของการเปลี่ยนแปลงจากผู้สังเกตการณ์ร่วมสมัยที่มีสายตาคมอย่างหลวงวิจิตรวาทการ หลวงวิจิตรฯ เจาะจงยกเรื่องเพลงที่ใช้ระหว่างการยึดอํานาจ มาเล่าดังนี้ "ในที่สุดแห่งการส่งวิทยุในคืนวันที่ ๒๔ นั้น เพลง "ข้าวรพุทธเจ้า" ได้หายไป และเพลง "มหาฤกษ์มหาชัย" ได้เข้ามาแทนที่ วันที่ ๒๔ มิถุนายนได้ผ่านพ้นไปแล้ว ราตรีกาลคงเงียบสงัด แต่หัวใจพลเมืองยังเต้นอยู่...
คืนวันที่ ๒๖ มิถุนายน เป็นคืนที่ประชาชนกลับรู้สึกอบอุ่น และบรรเทาความร้อนใจ เพลงมหาฤกษ์มหาชัยที่ใช้มาสองคืน กลับสงบเสียง และเพลง "ข้าวรพุทธเจ้า" ได้เข้ามาแทนที่ ราตรีที่ ๒๖ เป็นราตรีที่สงบ หัวใจของชาวสยามค่อยเต้นเบาลง ผมคิดว่า เราอาจสันนิษฐานได้ว่า เป็นไปได้ที่เจ้าพระยาธรรมศักดิ์ฯ จะได้รับแรงบันดาลใจให้ใช้ทํานอง "มหาชัย" จากการกระจายเสียง 2 คืนแรกนี้เอง (และน่าจะเขียนหลังวันที่ 27 เพราะ "วางธรรมนูญสถาปนาพาราใหม่" น่าจะแปลว่ามีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกแล้ว

สรุปคือเขียนระหว่าง 27 มิถุนายน ถึง 1กรกฎาคม) น่าสังเกตด้วยว่า หลวงวิจิตรฯ ไม่ได้พูดถึง "เพลงชาติไทย" ของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ฯ แต่อย่างใด ถ้ามี "เพลงชาติไทย" จริงๆ ผู้มีความสนใจอย่างเข้มข้นต่อเรื่องทางวัฒนธรรมอย่างหลวงวิจิตรฯ น่าจะพูดถึงแล้ว ในความเป็นจริง เท่าที่ผมทราบ ไม่มีหลักฐานว่า "เพลงชาติไทย" ของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ฯ เคยได้รับการร้องจริงๆ ด้วยซํ้า (แน่นอน การบรรเลงเพลงมหาชัยหรือทั้งมหาฤกษ์และมหาชัยอย่างที่หลวงวิจิตรฯ เล่า ไม่อาจนับว่าเป็นการเล่นเพลงของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ฯ ได้)

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ "เพลงชาติไทย" โดยยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน โปรดติดตามบทความต่อไปได้ที่นี่ ThailandAnthem.com "เพลงชาติไทย และประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเพลงประจำชาติไทย"


ขอบคุณที่มา : http://thailandanthem.com/

Kbank 20 เท่า กับโปร "รูด 1 ครั้ง รับคืน 1 วัน"


Kbank 20 เท่า กับโปร "รูด 1 ครั้ง รับคืน 1 วัน"



Kbank 20 เท่า กับโปร "รูด 1 ครั้ง รับคืน 1 วัน"

ธนาคารกสิกรไทยออกโปรโมชั่น Kbank 20 เท่า หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า Kbank Super Bonus X20 เท่า เพียงแค่ท่านมีบัตรเครดิตกรสิกรไทย แล้วใช้จ่ายทุกวันจนครบ 365 วัน ท่านก็สามารถรับสิทธิ์ Kbank 20 เท่า หรือ Kbank Super Bonus X20 ได้ อาจจะดูเหมือนยาก แต่ถ้าทำได้ท่านจะได้คะแนน Suber Bonus X20 เท่า สุดโหดไปใช้อย่างแน่นอน

Kbank Super Bonus X20


นอกจากนั้นลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตกสิกรไทยที่ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต ระหว่างวันจันทร์-วันศุกร์ หรือใช้จ่ายที่ร้านอาหารร้านอาหารในวันเสาร์-อาทิตย์ จะได้รับคะแนนสะสม 2 เท่า สำหรับยอดใช้จ่ายครบทุก 1,000 บาท และสามารถใช้คะแนนสะสมจากบัตรเครดิตเท่ายอดซื้อที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เดอะมอลล์ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม หรือโรบินสันทั่วประเทศ แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 ธันวาคม 2558

ส่วนผู้ถือบัตรเครดิตที่รักการท่องเที่ยว ยังร่วมลุ้นรับสิทธิ์สัมผัสทริปในฝันแบบเอ็กซ์คูลซีฟ และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมายได้ตลอดทั้งปี โดยทริปแรกพาไปเกาะฮอกไกโด เมื่อมียอดใช้จ่ายทุก 1,000 บาท ระหว่างวันที่ 8 มกราคม – 31 มีนาคม 2558 ซึ่งลูกค้าสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.askkbank.com/kbankcard หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ K-Contact Center โทรศัพท์ 02-888 8888

Kbank Super Bonus X20 เท่า

Kbank 20 เท่า


สำหรับในปี 2558 ธนาคารกสิกรไทย เตรียมรุกตลาดบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มยอดผู้ถือบัตรเครดิตใหม่อีก 1,000,000 ใบ และเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรอีก 29% หรือคิดเป็น 3.6 แสนล้านบาท โดยจะมีการออกแคมเปญ บัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตที่คุณขาดไม่ได้ เพื่อกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตลอดทั้งปี และสามารถตอบสนองความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ถือบัตร โดยผู้ถือบัตรเครดิตที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยใบใดก็ได้ที่ชื่อ นามสกุลเดียวกันอย่างน้อยวันละ 1 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ถึง 31 มกราคม 2559 จะรับคะแนนสะสมสูงสุด 20 เท่าของทุกยอดใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่วันที่เริ่มรายการ หรือคะแนนสะสมพิเศษสูงสุดถึง 1,000,000 คะแนน




ขอบคุณที่มา http://goo.gl/GOS3a4

ธุรกิจน่าสนใจ 2015 ตอนที่ 2

ธุรกิจน่าสนใจ ปี 2015 เป็นคำถามที่ใครๆ หลายๆ คนถามมาอย่างมากหลาย วันนี้ทางทีมงาน ThaiBiz จะมาแนะนำ ธุรกิจที่น่าสนใจ ในปี 2015 ให้ทุกคนทราบกันดีกว่า

ธุรกิจน่าสนใจ 2015

1. ธุรกิจน่าสนใจเกี่ยวกับสุขภาพและเทรนด์สุขภาพทั้งหลาย

ปัจจุบันนี้ หลายๆ คนให้ความสนใจในสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งประเทศไทยเป็นฐานผลิตและนำเข้าหลายใหญ่ในภูมิภาค AEC ทำให้มีโอกาสจะก้าวเจริญเติบโตได้มากขึ้น

2. ธุรกิจน่าสนใจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ

เป็นธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ เนื่องจาก สถาบันสถิติแห่งชาติ พบว่าตัวเลขผู้สูงอายุมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน จึงทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุสามารถเจริญเติบโตได้ไม่น้อยเช่นกัน

3. ธุรกิจน่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากปัจจุบันมีการเจริญเติบโตของประเทศมากขึ้น โรงอุตสาหกรรมต่างๆ จึงเกิดขึ้นมากมาย การกำจัดของเสียต่างๆ ก็ยังไม่ดีพอ จึงมีธุรกิจน่าสนใจที่เกี่ยวกับการกำจัดของเสียจากโรงงานเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันธุรกิจชนิดนี้ มีเพียงไม่กี่บริษัท ซึ่งยังเหลือพื้นที่ให้คุณเข้าไปทำธุรกิจได้อีกเยอะ และยังอยู่ได้อีกนาน

4. ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว

เมื่อโลกปัจจุบันเราสามารถรับข้อมูลข่าวสารจากคนทั่วโลกได้แค่เสี้ยววินาที ทุกอย่างส่งต่อกันได้ง่าย รวมกับปัจจัยการเดินทางที่สะดวกและถูกลงเป็นอย่างมากในการเดินทางข้ามประเทศ จะเห็นได้จากเที่ยวบินของสายการบินต่างๆราคาตั๋วต่ำลงมา การท่องเที่ยวจึงมีแนวโน้มเติบโต รวมถึงสินค้าและบริการอื่นๆด้วย ทั้ง โรงแรม ร้านอาหาร สินค้าท้องถิ่น สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ สิ่งหาดู หาซื้อได้ยาก ร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ หรือสถานที่สวยงามทั้งหลาย และอื่นๆ ทุกอย่างสามารถโฆษณาและโปรโมทได้ฟรี เมื่อคุณพร้อมหรือมีไอเดียรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเติบโตก็นับว่าเป็นโอกาสที่ต้องเร่งพร้อมเต็มที่

5. ธุรกิจอาหารราคามหาชน

อาหารที่ราคาถูกคุ้มค่า อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เพราะสังคมเมืองขยาย ผู้คนเร่งรีบทำงาน การจราจรติดขัด ทำให้เวลาส่วนตัวน้อยลง อาหารสำเร็จพร้อมทาน ราคาถูก เหมาะสำหรับคนทำงานประจำจึงยังมีโอกาส จึงเป็นธุรกิจน่านสนใจในปี 2015 และในอนาคต สังเกตได้จากร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 มีอาหารสำเร็จรูป นำมาอุ่นในเตาไมโครเวฟพร้อมทานออกมาขายเป็นจำนวนมากและขายดีด้วย อีกทั้งต้นทุนในการเข้าสู่ธุรกิจอาหารยังต่ำ จึงยิ่งน่าสนใจสำหรับผู้มีทุนน้อย

6. ธุรกิจการศึกษา

เป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจและลงทุนในปี 2015 และอนาคตที่จะเปิดเออีซี เพราะเมื่อมีแรงงานที่เปิดเสรีมากขึ้น การแข่งขันมากขึ้น ดังนั้นแล้วการศึกษาจึงสำคัญอย่างมาก ดังนั้นแล้วธุรกิจการศึกษาจึงต้องมีการแข่งขันและเป็นที่ต้องการของผู้คนที่ต้องการส่งบุตรหลานให้เรียนเพื่อสร้างโอกาสของตัวเองให้สูงขึ้น ธุรกิจด้านการศึกษาจึงน่าสนใจทีเดียว

7. ธุรกิจแฟรนไชส์

เป็นธุรกิจที่สนใจลงทุนในอนาคต เพราะปัจจุบันเราจะสามารถเห็นได้ชัดเจนว่า ธุรกิจที่มีเครือข่ายพันธมิตร สาขาที่มาก ระบบการจัดการที่ดี จะสามารถสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคจดจำและเชื่อมั่นได้ เพราะไปที่ไหนก็สามารถซื้อสินค้าและบริการได้ อีกทั้งยังเกิดความเคยชินกับสินค้าและบริการแล้ว นอกจากนี้แฟรนไชส์ที่แข็งแกร่ง จะมีการทำการตลาดที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมาก (สถานะการเงินที่แข็งแกร่ง) ทำกระแสได้ง่ายในโลกโซเชียล ผู้ร่วมธุรกิจเมื่อซื้อแฟรนไชส์มาแล้วจึงสามารถขายสินค้าและบริการได้ทันที แม้บางธุรกิจอาจจะกำไรน้อยกว่าทำเองแต่โอกาสอยู่รอดก็มีมากกว่า แต่ทั้งนี้ต้องเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่ดีเท่านั้น ต้องศึกษาอย่างระเอียดรอบคอบก่อนลงทุน

ธุรกิจน่าสนใจ 2015 AEC คือ โอกาสทองของการเติบโต ธุรกิจจึงต้องอยู่ในเทรนด์ที่กำลังขยายตัว หรือกำลังจะมา ผู้ที่ทำธุรกิจหรือกำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจเสริมจากงานประจำ จึงต้องศึกษาพร้อมๆกับลงมือทำเพื่อ ช่วงชิงโอกาสความได้เปรียบ เพราะในปี 2015 ไทยจะเข้าสู่ AEC ทำให้การแข่งขันมีสูงมาก เพราะจะมีสินค้า บริการ แรงงาน จากกลุ่มประเทศสมาชิกเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้การทำธุรกิจต่างๆต้องปรับตัว แต่ทว่า…โอกาสก็มีมาก


ThaiBiz.net

ธุรกิจน่าสนใจ 2015 ใน สหรัฐอเมริกา ( USA )

ธุรกิจน่าสนใจ 2015

สหรัฐอเมริกา ( USA )


ธุรกิจน่าสนใจ 2015 ใน สหรัฐอเมริกา ( USA )

ใน ปี 2015 เป็นปีของการเปลี่ยนแปลงในส่วนของธุรกิจน่าสนใจขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม เราจะมาพูดถึง ธุรกิจน่าสนใจ 2015 ซึ่งเป็นปีแห่งการเจริญเติบโตสำหรับผู้ประกอบการและเหมาะแก่การลงทุน


1. ธุรกิจน่าสนใจ - การเจริญเติบโตที่น่าสนใจของสถาบันสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก

สภาพทางการเงินของธุรกิจที่น่าสนใจขนาดเล็กดีขึ้นกว่าช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา, การสร้างความต้องการมากขึ้นในราคาสมเหตุสมผล อีกต่อไปเงินกู้ยืมระยะยาวซึ่งผู้ให้กู้สถาบันมีความพร้อมและยินดีที่จะให้ และมองหาตลาดการปล่อยสินเชื่อจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2015

ตลอดจนสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการตลาดในการปล่อยสินเชื่อได้โผล่ออกมาในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในแหล่งที่มาสำหรับเจ้าของธุรกิจที่น่าสนใจขนาดเล็ก สมควรจะหาแหล่งเงินกู้ Lengthier ซึ่งมักจะมาในอัตราที่น่าสนใจที่ต่ำเป็นร้อยละ 8-12ข้อเสนอทางการเงินที่พวกเขาจะนำเสนอมากขึ้นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพกว่าของผู้ให้กู้ทางเลือกที่มีความเชี่ยวชาญในการให้กู้ยืมเงินระยะสั้นและเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 30-40 ในช่วงเวลาคงที่


2. ธุรกิจที่น่าสนใจ - การปฏิรูปการตรวจคนเข้าเมืองจะส่งผลกระทบทางการเงินของธุรกิจขนาดเล็ก

ในปี 2014 ประธานาธิบดีโอบามาผลักดันให้มีการปฏิรูปการอพยพที่มีประสิทธิภาพจะช่วยป้องกันผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในสหรัฐจากการคุกคามของการเนรเทศ สถานะของพวกเขาเพิ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการที่อาจมีการทำงานและได้รับประสบการณ์ผ่านทางเศรษฐกิจใต้ดินมานานหลายปีตอนนี้มีโอกาสที่จะเริ่มต้นธุรกิจน่าที่สนใจของตัวเอง

ตามการศึกษาล่าสุดโดย SBA อพยพมีการเป็นเจ้าของธุรกิจที่สูงขึ้นและอัตราการก่อกว่าผู้อพยพที่ไม่ใช่ ตอนนี้ผู้อพยพสามารถโผล่ออกมาจากเงามากของพวกเขาจะเริ่มต้น บริษัท ของตัวเองและจะต้องยื่นขอทุนสำหรับผู้ประกอบการที่จะเติบโตในอุตสาหกรรมที่หลากหลายจากการให้บริการการจัดสวนให้กับ บริษัท ไอทีนวัตกรรม


3. บูรณาการของโทรศัพท์มือถือในการปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก

ความก้าวหน้าในเทคโนโลยี เป็นหนึ่งในสิ่งที่ใหญ่ที่สุดของนวัตกรรมการขับเคลื่อนในตลาดสินเชื่อธุรกิจน่าสนใจขนาดเล็ก จากการวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าตัวเลขการเติบโตของเจ้าของธุรกิจที่น่าสนใจขนาดเล็กที่มีอายุระหว่าง 30-40 พึ่งพาแท็บเล็ตของพวกเขาและโทรศัพท์มือถือในการดำเนินธุรกิจ มันไม่ใช่แค่คนในยุค 20 ของพวกเขา สิ่งที่พวกเขากำลังทำผ่านทางแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือของพวกเขา? การประยุกต์ใช้ในการระดมทุน

ในขณะที่หลายสถาบันการเงินขนาดใหญ่ยังไม่ได้ทำกระโดดไปที่มือถือ ซึ่งคาดการณ์ว่าอื่น ๆ อีกมากมายของพวกเขาจะทำให้กระโดดในปีที่ผ่านมานี้ เทคโนโลยีจะช่วยปรับปรุงขั้นตอนการสมัครขอสินเชื่อจึง Benefitting ผู้กู้และผู้ให้กู้สถาบันการเงินที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเพื่อการเปลี่ยนแปลงของทะเลนี้จะได้รับขาขึ้นในการแข่งขัน เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่พวกเขาได้เรียนรู้ที่ร้านเปรียบเทียบและใช้สำหรับการกู้ยืมเงินออนไลน์ขั้นตอนต่อไปคือการทำผ่านทางโทรศัพท์มือถือสมาร์ท

   

ธุรกิจน่าสนใจ 2015 (2558)

ธุรกิจน่าสนใจ 2015 (2558) นั้น มีหลายคนถามเข้ามาเยอะมากว่า ธุรกิจตัวไหนน่าสนใจและน่าลงทุนกว่ากัน ธุรกิจแบบไหนที่จะสามารถเติบโตสร้างกำไรให้กับเราได้ วันนี้ทาง ThaiBiz จะขอนำเสนอธุรกิจที่น่าสนใจทั้ง 7 ธุรกิจ ดังต่อไปนี้

ธุรกิจน่าสนใจ 2015

ธุรกิจที่น่าสนใจ 2015 (2558)

  1. ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นธุรกิจที่สนใจลงทุนในอนาคต เพราะปัจจุบันเราจะสามารถเห็นได้ชัดเจนว่า ธุรกิจที่มีเครือข่ายพันธมิตร สาขาที่มาก ระบบการจัดการที่ดี จะสามารถสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคจดจำและเชื่อมั่นได้ เพราะไปที่ไหนก็สามารถซื้อสินค้าและบริการได้ อีกทั้งยังเกิดความเคยชินกับสินค้าและบริการแล้ว นอกจากนี้แฟรนไชส์ที่แข็งแกร่ง จะมีการทำการตลาดที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมาก (สถานะการเงินที่แข็งแกร่ง) ทำกระแสได้ง่ายในโลกโซเชียล ผู้ร่วมธุรกิจเมื่อซื้อแฟรนไชส์มาแล้วจึงสามารถขายสินค้าและบริการได้ทันที แม้บางธุรกิจอาจจะกำไรน้อยกว่าทำเองแต่โอกาสอยู่รอดก็มีมากกว่า แต่ทั้งนี้ต้องเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่ดีเท่านั้น ต้องศึกษาอย่างระเอียดรอบคอบก่อนลงทุน

  2. ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เมื่อโลกปัจจุบันเราสามารถรับข้อมูลข่าวสารจากคนทั่วโลกได้แค่เสี้ยววินาที ทุกอย่างส่งต่อกันได้ง่าย รวมกับปัจจัยการเดินทางที่สะดวกและถูกลงเป็นอย่างมากในการเดินทางข้ามประเทศ จะเห็นได้จากเที่ยวบินของสายการบินต่างๆราคาตั๋วต่ำลงมา การท่องเที่ยวจึงมีแนวโน้มเติบโต รวมถึงสินค้าและบริการอื่นๆด้วย ทั้ง โรงแรม ร้านอาหาร สินค้าท้องถิ่น สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ สิ่งหาดู หาซื้อได้ยาก ร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ หรือสถานที่สวยงามทั้งหลาย และอื่นๆ ทุกอย่างสามารถโฆษณาและโปรโมทได้ฟรี เมื่อคุณพร้อมหรือมีไอเดียรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเติบโตก็นับว่าเป็นโอกาสที่ต้องเร่งพร้อมเต็มที่

  3. ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ เป็นอีกประเภทธุรกิจที่น่าสนใจมาก ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนวัยทำงาน มีลูกน้อย หรือไม่ยอมมีลูกกันง่ายๆ ตรงนี้สามารถหาข้อมูลได้จาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ จะพบว่าอัตราผู้สูงอายุในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สินค้าเกี่ยวกับผู้สูงอายุจึงมีแนวโน้มเติบโต รวมทั้งสถานพยาบาลด้วย

  4. ธุรกิจการศึกษา เป็นอีกธุรกิจที่น่าลงทุนในปี 2558 และอนาคตที่จะเปิดเออีซี เพราะเมื่อมีแรงงานที่เปิดเสรีมากขึ้น การแข่งขันมากขึ้น ดังนั้นแล้วการศึกษาจึงสำคัญอย่างมาก ดังนั้นแล้วธุรกิจการศึกษาจึงต้องมีการแข่งขันและเป็นที่ต้องการของผู้คนที่ต้องการส่งบุตรหลานให้เรียนเพื่อสร้างโอกาสของตัวเองให้สูงขึ้น ธุรกิจด้านการศึกษาจึงน่าสนใจทีเดียว

  5. ธุรกิจอาหารราคามหาชน อาหารที่ราคาถูกคุ้มค่า อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เพราะสังคมเมืองขยาย ผู้คนเร่งรีบทำงาน การจราจรติดขัด ทำให้เวลาส่วนตัวน้อยลง อาหารสำเร็จพร้อมทาน ราคาถูก เหมาะสำหรับคนทำงานประจำจึงยังมีโอกาส จึงเป็นธุรกิจน่านสนใจในปี 2558 และในอนาคต สังเกตได้จากร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 มีอาหารสำเร็จรูป นำมาอุ่นในเตาไมโครเวฟพร้อมทานออกมาขายเป็นจำนวนมากและขายดีด้วย อีกทั้งต้นทุนในการเข้าสู่ธุรกิจอาหารยังต่ำ จึงยิ่งน่าสนใจสำหรับผู้มีทุนน้อย

  6. ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและเทรนด์สุขภาพทั้งหลาย เพราะปัจจุบันผู้คนหันมาดูแล ใส่ใจสุขภาพกันมาก สังเกตได้จากหลายปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันยอดขายสินค้าด้านสุขภาพและอาหารเสริมมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นทั้งแหล่งผลิตและนำเข้าสินค้าสุขภาพที่ได้มาตรฐานและมีความเจริญด้านสาธารณสุขในระดับแนวหน้าของภูมิภาคอาเซียน เมื่อเปิด AEC แล้วโอกาสที่จะขยายตลาดออกไปยิ่งจะทำได้สะดวกขึ้นซึ่งในประเทศสมาชิกเหล่านี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากด้วย สินค้าไทยด้านสุขภาพเป็นยอมรับของนานาประเทศอยู่แล้ว ปัจจุบันที่อยู่อาศัยต่างๆ บ้าน ทำเลที่เป็นแหล่งสุขภาพจะขายดีและราคาแพง ซึ่งนี่ก็เป็นอีกตัวอย่างทำให้รู้ว่าเทรนด์สุขภาพมาแรง เมืองยิ่งโตมลภาวะยิ่งมาก ผู้คนก็ยิ่งโหยหาธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

  7. ธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบันการเติบโตของเมือง อุตสาหกรรมต่างๆ ขยายตัวอย่างมาก ทำให้เกิดของเสีย ขยะ ตามมามากมายหลายชนิด ต้องหาวิธีจำกัดหรือนำมาใช้ใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจลงทุนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการด้านนี้น้อย การจัดการของเสียอันตรายบางประเภทถึงกับไม่เพียงพอเลยก็มี หรือแม้แต่ขยะในบ้านเรายังเป็นปัญหาดังเป็นข่าวที่ผ่านมา

ธุรกิจน่าสนใจ 2015 เออีซีคือโอกาสทองของการเติบโต ธุรกิจจึงต้องอยู่ในเทรนด์ที่กำลังขยายตัว หรือกำลังจะมา ผู้ที่ทำธุรกิจหรือกำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจเสริมจากงานประจำ จึงต้องศึกษาพร้อมๆกับลงมือทำเพื่อ ช่วงชิงโอกาสความได้เปรียบ เพราะในปี 2015 ไทยจะเข้าสู่ AEC ทำให้การแข่งขันมีสูงมาก เพราะจะมีสินค้า บริการ แรงงาน จากกลุ่มประเทศสมาชิกเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้การทำธุรกิจต่างๆต้องปรับตัว แต่ทว่า…โอกาสก็มีมาก

แนวโน้มธุรกิจที่น่าสนใจปี 2558 หรือ ปี 2015 นี้ เป็นอีกการวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจ ที่น่าจะเติบโตต่อได้จากหลายๆปัจจัย ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ สำหรับใครที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจแต่ยังขาดประสบการณ์หรือยังไม่รู้จะตัดสินใจทำธุรกิจอะไรดี ก็ลองนำไปศึกษาเรียนรู้ต่อได้...

ที่มา : http://www.bangkoktoday.net/business-trend-2015-and-future/

ถั่วดาวอินคา พารวย...???



ถั่วดาวอินคา คืออะไร ???



ถั่วดาวอินคาคืออะไร ???

             ถั่วดาวอินคา หรือ Sacha Inchi (Plukenetia volubilis) เป็นพืชที่มีศักยภาพ oilseed เพราะเมล็ดของพืชชนิดนี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว (FAs) โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ประกอบของกรดไขมันของน้ำมันเมล็ดถั่วดาวอินคาแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในที่มีขนาดใหญ่ปริมาณของกรดไลโนเลนิค แต่ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับกลไกระดับโมเลกุลที่รับผิดชอบในการสังเคราะห์กรดไขมันไม่อิ่มตัวในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ของสายพันธุ์นี้ ข้อมูลยีนที่มีความจำเป็นในการทำความเข้าใจกลไกเหล่านี้ ถั่วดาวอินคาเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบไปด้วย วิตามินเอ, วิตามินอี และ โอเมก้า 3, 6, 9

ถั่วดาวอินคา Sacha Inchi
© agroindustriasosho.com

การทดลองถั่วดาวอินคา

             ในการศึกษาถั่วดาวอินคานี้โนโวเดประกอบยีนและการวิเคราะห์การแสดงออกของยีนได้ดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยีการจัดลำดับ ในขั้นตอนการเริ่มต้นและการสะสมน้ำมันอย่างรวดเร็วในขั้นตอนของการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ถั่วดาวอินคา เหล่านี้ถูกประกอบเป็น 70,392 unigenes; 22,179 unigenes แสดงให้เห็น 2 เท่าหรือความแตกต่างของการแสดงออกมากขึ้นระหว่างสองห้องสมุด การใช้ข้อมูลนี้เราระบุ unigenes ที่อาจจะมีส่วนร่วมในโนโวเดเอฟเอและการสังเคราะห์ triacylglycerol โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนของ unigenes เข้ารหัส desaturase สำหรับการสะสมของกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีระดับการแสดงออกในระดับสูงในการสะสมน้ำมันอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับขั้นตอนขั้นตอนแรกของการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ถั่วดาวอินคาที่ถูกระบุ

ผลการทดลองถั่วดาวอินคา

             การศึกษานี้ให้ชุดแรกที่ครอบคลุมลักษณะการแสดงออกของยีนถั่วดาวอินคา ในระดับการถอดรหัส ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยสร้างรากฐานสำหรับการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกระดับโมเลกุลสะสมน้ำมันพื้นฐานและการสังเคราะห์ PUFA ในเมล็ดถั่วดาวอินคา การวิเคราะห์ของเราอำนวยความสะดวกในความเข้าใจในกลไกระดับโมเลกุลที่รับผิดชอบในการกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง (โดยเฉพาะกรดไลโนเลนิค) สะสมในเมล็ดถั่วดาวอินคา